คิดจะทำการใหญ่ ใจต้องสู้ !

        คำพูดให้กำลังใจในภาษาไทยที่นิยมใช้กันทั่วไปคือคำว่า "สู้ ๆ นะ" เทียบได้กับประโยคภาษาญี่ปุ่นว่า 頑張って (กัมบัตเตะ) หรือพูดแบบเต็ม ๆ ได้ว่า 頑張ってください (กัมบัตเตกุดาไซ) ซึ่งหากใครดูซีรีส์หรืออนิเมะญี่ปุ่นละก็ เชื่อว่าน่าจะเคยได้ยินอยู่บ่อยครั้ง เพราะเป็นคำพูดให้กำลังใจที่สามารถใช้ได้ในหลากหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะพูดกับเพื่อน ครอบครัว หรือคนที่ทำงาน แต่นอกจากประโยคนี้แล้ว ก็ยังมีคำพูดให้กำลังใจอื่น ๆ ที่ช่วยปลอบโยนและมอบพลังบวกให้แก่ผู้ฟังด้วยเช่นกัน อย่างเช่นประโยคภาษาญี่ปุ่น 3 ประโยคนี้ ~

1.  諦めないで! (อากิราเมไนเดะ)
= อย่ายอมแพ้นะ !

        เริ่มต้นด้วยประโยคให้กำลังใจที่ช่วยปลุกแรงฮึกเหิมให้สู้ต่อไป อย่าง 諦めないで (อากิราเมไนเดะ) หรือพูดแบบเต็ม ๆ ได้ว่า 諦めないでください (อากิราเมไนเดกุดาไซ) = "อย่ายอมแพ้นะ"
        ประโยคนี้มักใช้พูดคู่กับประโยคให้กำลังใจสุดฮิตอย่าง 頑張ってください (กัมบัตเตกุดาไซ) โดยเมื่อนำมาเชื่อมเป็นประโยคเดียวกันแล้ว จะกลายเป็นประโยคให้กำลังใจแบบเต็มร้อยว่า 諦めないで、頑張ってください! (อากิราเมไนเดะ กัมบัตเตกุดาไซ) = "สู้ ๆ อย่ายอมแพ้ เต็มที่ไปเลย !"


ขอบคุณรูปภาพจาก – https://www.irasutoya.com/


        นอกจากนี้ สิ่งที่น่าสนใจก็คือทั้งสองประโยคข้างต้นเป็นรูปประโยคที่มีความหมายตรงข้ามกัน โดย 諦めないでください (อากิราเมไนเดกุดาไซ) มาจาก 諦める (อากิราเมรุ) = "ยอมแพ้" แต่เมื่อเชื่อมกับรูปประโยค ~ないでください (~ไนเดกุดาไซ) = "กรุณาอย่า..." ที่เป็นสำนวนขอร้องให้อีกฝ่ายไม่ทำบางสิ่ง จึงมีความหมายว่า "อย่ายอมแพ้"
        ส่วน 頑張ってください (กัมบัตเตกุดาไซ) มาจาก 頑張る (กัมบารุ) = "พยายาม, ทำให้เต็มที่" เมื่อเชื่อมกับรูปประโยค ~てください (~เตกุดาไซ) = "กรุณา..." ที่เป็นสำนวนขอร้องให้อีกฝ่ายทำบางสิ่ง จึงมีความหมายว่า "สู้ ๆ, พยายามเข้านะ, ทำให้เต็มที่นะ"
        ดังนั้น หากเราจำประโยค 諦めないで、頑張ってください (อากิราเมไนเดะ กัมบัตเตกุดาไซ) ได้ ก็เท่ากับจำรูปประโยคภาษาญี่ปุ่นได้ถึงสองรูปเลยทีเดียว !


2.  君ならできる!(คิมินาราเดกิรุ)
= ถ้าเป็นเธอละก็ ทำได้อยู่แล้ว !

        ประโยคต่อมาเป็นประโยคให้กำลังใจที่เหมาะแก่การสร้างความมั่นใจให้อีกฝ่ายเชื่อมั่นในตัวเองว่าทำได้แน่นอน นั่นคือ ならできる (คิมินาราเดกิรุ) = "ถ้าเป็นเธอละก็ ทำได้อยู่แล้ว"
        ประโยคนี้เป็นรูปประโยคแสดงเงื่อนไข ~なら (~นาระ) = "ถ้า..." ต่อท้ายด้วยคำกริยา できる (เดกิรุ) = "สามารถ" ส่วนคำว่า 君 (คิมิ) = "เธอ" ที่อยู่ด้านหน้า 〇〇なら (นาระ) สามารถเปลี่ยนเป็นชื่อของผู้ที่เราอยากให้กำลังใจได้ หากอยากให้กำลังใจใคร ก็ลองใช้ชื่อของคนคนนั้นแทนได้เลย

 


ขอบคุณรูปภาพจาก – https://www.irasutoya.com/


3.  応援しているよ!(โอเอนชิเตอิรุโยะ)
= เป็นกำลังใจให้อยู่นะ !

        ปิดท้ายด้วยประโยคให้กำลังใจที่แฝงความรู้สึกอบอุ่นอย่าง 応援している (โอเอนชิเตอิรุโยะ) = "เป็นกำลังใจให้อยู่นะ" เหมาะสำหรับใช้บอกให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว แต่มีคนคอยส่งกำลังใจให้อยู่
        ประโยคนี้ใช้รูปประโยค ~ている (เตอิรุ) = "กำลัง...อยู่" แสดงการกระทำที่กำลังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เมื่อนำคำกริยา 応援する (โอเอนซุรุ) = "ให้กำลังใจ" มาผันและเชื่อมเข้าด้วยกัน จึงมีความหมายว่า "เป็นกำลังใจให้อยู่นะ, คอยเชียร์อยู่นะ" ส่วน よ (โยะ) เป็นคำช่วยท้ายประโยคที่สื่อความรู้สึกของผู้พูดว่ากำลังบอกเรื่องราวที่คิดว่าอีกฝ่ายยังไม่ทราบนั่นเอง

 


ขอบคุณรูปภาพจาก – https://www.irasutoya.com/


        เมื่อได้เรียนรู้ประโยคให้กำลังใจในภาษาญี่ปุ่นพร้อมกับรูปประโยคไปด้วย จะเห็นได้ว่าการจำรูปประโยคผ่านประโยคตัวอย่างก็มีส่วนช่วยให้จดจำความหมายและวิธีการเชื่อมรูปประโยคได้ง่ายขึ้น หากใครสนใจการเรียนรู้รูปประโยคภาษาญี่ปุ่นผ่านเทคนิคช่วยจำรูปแบบนี้ สำนักพิมพ์ภาษาและวัฒนธรรมก็ขอแนะนำบัตรช่วยจำซีรีส์ "บัตรรูปประโยคภาษาญี่ปุ่น" ที่รวบรวมรูปประโยคภาษาญี่ปุ่นระดับ N5-N1 พร้อมประโยคตัวอย่าง และคำแปลภาษาไทยไว้อย่างครบถ้วน ใช้ทบทวนได้สะดวก อีกทั้งเนื้อหาของประโยคตัวอย่างยังอ่านสนุก ช่วยให้เรียนรู้ได้อย่างเพลิดเพลิน

        จำหน่ายครบทุกระดับแล้ววันนี้ที่ร้านหนังสือทั่วไป ศูนย์หนังสือ ส.ส.ท. ทั้ง 2 สาขา (สุขุมวิท 29 และพัฒนาการ 18) หรือสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ tpabook.com แอป Shopee (ค้นหาร้านค้าชื่อ tpabookcentre) และแอป Lazada (ค้นหาร้านค้าชื่อ tpabook) ส่วนรูปแบบ E-book ก็สามารถสั่งซื้อที่เว็บไซต์ mebmarket.com หรือเว็บไซต์ ookbee.com กันได้เลย :D

ข้อมูลอ้างอิง :
https://cityworks.jp/?p=21431#toc3
https://www.rarejob.com/englishlab/column/20180905/


กุลวรากร เอกอัครากุล TPA Press